Kata Nama
สาระน่ารู้
BAHASA MELAYU
ภาษามลายู (มลายู: Bahasa Melayu) เป็นภาษาหลักภาษาหนึ่งในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน มีสถานะเป็นภาษาราชการในบรูไน, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีผู้พูดประมาณ 200–250 ล้านคน (ณ ปี พ.ศ. 2552)[2] โดยเป็นภาษาแม่ของผู้คนตลอดสองฟากช่องแคบมะละกา ซึ่งได้แก่ ชายฝั่งคาบสมุทรมลายูของมาเลเซียและชายฝั่งตะวันออกของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย และได้รับการยอมรับเป็นภาษาแม่ในชายฝั่งตะวันตกของซาราวะก์และกาลีมันตันตะวันตกในเกาะบอร์เนียว นอกจากนี้ยังใช้เป็นภาษาการค้าในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งได้แก่ ตอนใต้ของคาบสมุทรซัมบวงกา, กลุ่มเกาะซูลู และเมืองบาตาราซาและบาลาบัก (ซึ่งมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะปาลาวัน
1.) Kata Nama
หมายถึง คำที่ใช้เรียกสิ่งๆ หนึ่ง ทั้งที่อยู่สภาพที่เป็นรูปธรรม (Konkrit) และนามธรรม (Abstrak) หรือมีชีวิต (Hidup) และไม่มีชีวิต (Tak Hidup) ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เรียกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งดังต่อไปนี้คือ
- มนุษย์ (Manusia) เช่น ibu (แม่), ayah (พ่อ), raja (ราชา), guru (ครู), murid (ลูกศิษย์) ฯลฯ
- สัตว์ (Binatang) เช่น burung (นก), kambing (แพะ), arnab (กระต่าย), ayam (ไก่), ikan (ปลา) ฯลฯ
- สิ่งของ (Benda) เช่น buku (หนังสือ), almari (ตู้), kolam (อ่างเก็บน้ำ), basikal (จักรยาน), meja (โต๊ะ) ฯลฯ
- พืชพันธุ์ (Tumbuhan) เช่น mawar (กุหลาบ), durian (ทุเรียน), kelapa (มะพร้าว), kubis (กะหล่ำปลี), cambu (ชมพู่) ฯลฯ
- ความคิด (Pemikiran) เช่น kaji (ศึกษา/วิจัย), pikir (คิด), renung (ไตร่ตรอง), analisa (วิเคราะห์), bicara (พิจารณา) ฯลฯ
- ความเชื่อ (Kepercayaan) เช่น Islam (อิสลาม), Buda (พุทธ), Kristian (คริสต์), Hindu (ฮินดู), Bahai (บาไฮ) ฯลฯ
- ความรู้สึก (Perasaan) เช่น suka (ชอบ), benci (เกลียด), cinta (รัก), marah (โกรธ), bimbang (ห่วงใย) ฯลฯ
- รสชาติ (Rasa) เช่น manis (หวาน), tawar (จืด), pedas (เผ็ด), pahit (ขม), masam (เปรี้ยว) ฯลฯ
ในภาษาไทยจะเรียกคำชนิดนี้ว่า “คำนาม” นั่นเอง นอกจากนี้ Kata Nama ยังถือเป็นส่วนหลักของประโยคอีกด้วย
อนึ่ง เมื่อคำใดมี Kata Bilang (คำชี้จำนวน) นำหน้าคำ หรือมี Kata Ganti Tunjuk (คำสรรพนามเจาะจง) คือคำ ini (นี้. นี่) หรือ itu (นั้น, นั่น) ต่อท้ายคำ คำนั้นถือเป็น Kata Nama
นอกจากนี้ Kata Nama ยังจะถูกแยกย่อยออกมาเป็นอีกสามชนิดคำ ได้แก่
1.) Kata Nama Am (คำนามสามัญ)
2.) Kata Nama Khas (คำนามวิสามัญ)
3.) Kata Ganti Nama (คำสรรพนาม)
3.) Kata Ganti Nama (คำสรรพนาม)
1.1) Kata Nama Amหมายถึง Kata Nama หรือคำนามที่ใช้เรียกสิ่งๆ หนึ่งโดยไม่เจาะจงเป็นการเฉพาะ หรืออีกนัยหนึ่งคือ คำที่มีลักษณะตรงข้ามกับ Kata Nama Khas นั่นเอง
นอกจากนี้ Kata Nama Am นั้น มีทั้งที่มาจาก Kata Asal (คำราก) หรือ Kata Terbitan (คำแตก) ซึ่งรายละเอียดของคำทั้งสองนี้ ก็จะได้กล่าวถึงในลำดับถัดไป และสำหรับตัวอย่างของ Kata Nama Am นั้น โปรดดูที่ตัวอย่างของ Kata Nama
อนึ่ง ในภาษาไทยนั้น คำที่มีลักษณะเดียวกับ Kata Nama Am ก็จะมีหลายชื่อให้เรียก เช่น คำนามสามัญ, คำนามทั่วไป หรือคำสามานยนาม เป็นต้น
Kata Nama Am ทุกคำ จะต้องขึ้นอักษรแรกของคำด้วยตัวพิมพ์เล็กเสมอ
Kata Nama Am (คำนามทั่วไป ไม่เจาะจง)
I. Hidup
− Manusia (มนุษย์) : ibu-bapa(แม่-พ่อ)
isteri(ภรรยา)
bayi(ทารก)
guru(ครู)
pelajar(นักเรียน)
polis(ตำรวจ)
−Bukan manusia (สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์) : malaikat(มาลาอีกะฮ์/ทูตของพระเจ้า)
hantu(ผี)
kucing(แมว)
harimau(เสือ)
II. Tak Hidup (สิ่งที่ไม่มีชีวิต)
−Institusi(สถาบัน)
: sekolah(โรงเรียน)
klinik(คลินิก)
hotel(โรงแรม)
balai polis(สถานีตำรวจ)
bank(ธนาคาร)
− Bukan institusi(ที่ไม่ใช่สถาบัน)
= Abstrak(นามธรรม) : program(โปรแกรม)
angin(ลม)
cuaca(ฤดูกาล)
kedamaian(ความสงบสุข)
= Konkrit(รูปธรรม) : bilik(ห้อง)
kereta(รถ)
telefon(โทรศัพท์)
1.2) Kata Nama Khas
หมายถึง Kata Nama หรือคำนามที่ใช้เรียกสิ่งๆ หนึ่งโดยเจาะจงเป็นการเฉพาะ หรืออีกนัยหนึ่งคือ คำที่มีลักษณะตรงข้ามกับ Kata Nama Am นั่นเอง
อนึ่ง ในภาษาไทยนั้น คำที่มีลักษณะเดียวกับ Kata Nama Khas ก็จะมีหลายชื่อให้เรียก เช่น คำนามวิสามัญ, คำนามชี้เฉพาะ หรือคำวิสามานยนาม เป็นต้น
Kata Nama Khas ทุกคำที่เป็นชื่อ จะต้องขึ้นอักษรแรกของคำด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ ยกเว้น Kata Nama Khas ที่ต่อท้ายด้วยคำว่า ini หรือ itu ที่ไม่ต้องขึ้นตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับอักษรแรกของคำ (โปรดดูที่ "จุดสังเกตว่าคำใดที่เป็น Kata Nama Khas", ข้อ 2.)
นอกจากนี้ Kata Nama Khas นั้น มีทั้งที่มาจาก Kata Asal (คำราก) หรือ Kata Terbitan (คำแตก) เช่นเดียวกับ Kata Nama Am ซึ่งรายละเอียดของคำทั้งสองนี้ ก็จะได้กล่าวถึงในลำดับถัดไป
จุดสังเกตว่าคำใดที่เป็น Kata Nama Khas
1.) ทุกคำที่เป็นชื่อมนุษย์ (Manusia), สัตว์ (Binatang), สิ่งของ (Benda), สถานที่ (Tempat), พืชพันธุ์ (Tumbuhan) เป็นต้น
2.) Kata Nama Am ทุกคำที่ต่อท้ายด้วยคำ "ini" (นี้, นี่) หรือ "itu"(นั้น, นั่น) ถือเป็น Kata Nama Khas ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น
- Rumah itu milik saya.
(บ้านหลังนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของฉัน)
- Saya sangat suka membaca buku ini.
(ฉันชอบอ่านหนังสือเล่มนี้มากๆ)
Kata Nama Khas (คำนามเฉพาะ)I. Hidup (สิ่งมีชีวิต)− Manusia (มนุษย์) : Muhammad (มูฮัมมัด)Devid Beckham (เดวิด เบ็คเฮ็ม)Doktor Pontip (คุณหมอพรทิพย์)− Bukan manusia (สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์) :Si Tong dang (สุนัขที่ชื่อทองแดง)Si Mak miau (แมวที่ชื่อมะเมี๋ยว)II. Tak Hidup (สิ่งที่ไม่มีชีวิต)− Hikayt , Kisah (ตำนาน,เรื่องราว) :Nabi Muhammad S.A.W. (ประวัตินาบีมูฮัมมัด ซ.ล.)Bang-rajan (บางระจัน)Somdet Phra Naresuan Maharat(ตำนานสำเด็จพระนเรศวรมหาราช)− Tempat (สถานที่) : Universiti Malaya(มหาวิทยาลัยมลายา)Masjid Muhammadi Kota bharu (มัสยิดมูฮัมมาดี โกตา บารู)Muzium Nasional Bangkok (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร)− Kawasan , Wilayah , Negari (เขตพื้นที่ , ภูมิภาค/จังหวัด , เมือง/ประเทศ) :Bangkok(กรุงเทพ)Thailand(ประเทศไทย)Kuala Lumpur(กรุงกัวลาลัมเปอร์)
Asia , Eropah(เอเชีย , ยุโรป)
1.3) Kata Ganti Nama
หมายถึง Kata Nama หรือคำนามที่ใช้เรียกแทนชื่อ หรือตัวตนของสิ่งๆ หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ หรือสิ่งของ เป็นต้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกล่าวคำนามนั้นซ้ำๆ หลายครั้ง
อนึ่ง ในภาษาไทยนั้นจะเรียก Kata Ganti Nama ว่า "คำสรรพนาม"
นอกจากนี้ Kata Ganti Nama จะถูกแบ่งย่อยอีกเป็นดังนี้
1.) Kata Ganti Diri (คำสรรพนามแทนตน)
2.) Kata Ganti Tanya (คำสรรพนามเพื่อใช้ถาม)
3.) Kata Ganti Tempat (คำสรรพนามแทนสถานที่)
4.) Kata Ganti Tunjuk (คำสรรพนามชี้เฉพาะ)
5.) Kata Ganti Tak Tentu (คำสรรพนามไม่ชี้เฉพาะ)
1.) Kata Kerja
คำกริยา
คือคำที่บ่งบอกถึงการกระทำหนึ่งๆที่ทำขึ้นโดยผู้กระทำหนึ่งๆ คำกริยามี 2
ชนิดคือ
1. สหกรรมกริยา
กล่าวคือคือคำกริยาที่ต้องการกรรมมารองรับ อาทิ makan (กิน)
minum (ดื่ม) baca (อ่าน)
tulis (เขียน) เป็นต้น
2. อกรรมกริยา
กล่าวคือคำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมมารองรับ เช่น mandi (อาบน้ำ)
berjalan (เดิน) tidur (นอน)
bersenam (ออกกำลังกาย) เป็นต้น
หน่วยคำเติมสร้างคำกริยา เปลี่ยนรากศัพท์ให้เป็นคำกริยา ตัวอย่างแสดงในตารางข้างล่าง
ชนิดของปัจจัย | หน่วยคำเติม | ตัวอย่างรากศัพท์ | ตัวอย่างคำที่ได้ |
---|---|---|---|
อุปสรรค | be(R)- | ajar (สอน) | belajar (เรียน) - Intransitive |
me(N)- | tolong (ช่วย) | menolong (ช่วย) - Active transitive | |
di- | ambil (นำไป) | diambil (ถูกนำไป) - Passive transitive | |
mempe(R)- | kemas (เป็นลำดับ) | memperkemas (จัดเรียงต่อไป) | |
dipe(R)- | dalam (ลึก) | diperdalam (ลึกลงไป) | |
te(R)- | makan (กิน) | termakan (ถูกกินทันทีทันใด) | |
ปัจจัย | -kan | letak (เก็บ) | letakkan (เก็บ) - คำสั่ง |
-i | jauh (ไกล) | jauhi (หลีกเลี่ยง) - คำสั่ง | |
อุปสรรค+ปัจจัย | be(R)-...-an | pasang (ซ่อม) | berpasangan (ถูกซ่อม) |
be(R)-...-kan | tajuk (หัวข้อ) | bertajukkan (ถูกตั้งหัวข้อ) | |
me(N)-...-kan | pasti (แน่นอน) | memastikan (มั่นใจ) | |
me(N)-...-i | teman (companion) | menemani (to accompany) | |
mempe(R)-...-kan | guna (ใช้) | mempergunakan (to misuse, to utilise) | |
mempe(R)-...-i | ajar (teach) | mempelajari (to study) | |
ke-...-an | hilang (หายไป) | kehilangan (หาย) | |
di-...-i | sakit (เจ็บ) | disakiti (เจ็บปวด) | |
di-...-kan | benar (ถูก) | dibenarkan (ถูกอนุญาต) | |
dipe(R)-...-kan | kenal (จำได้) | diperkenalkan (ถูกแนะนำ) |
ที่มา : http://thbmum.blogspot.com/2013/02/kata-nama.html
http://www.sunnahstudent.com/forum/archive.php?topic=9225.0
http://www.wikiwand.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น