KATA TUGAS



 KATA TUGAS (คำบอกหน้าที่)

          Kata tugas ialah kata yang tidak dapat berdiri sendiri. Ia memerlukan bantuan kata-kata lain untuk membentuk satu ayat yang lengkap. 

           คำหน้าที่คือคำที่ไม่มียืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง มันต้องการความช่วยเหลือจากคำอื่นๆเพื่อสร้างประโยคที่สมบูรณ์ เช่น di (ที่)  untuk (เพื่อ/สำหรับ)  antara (ระหว่าง) dengan (กับ/โดย/อย่าง)  hingga (จนกระทั้ง)  sejak (ตั้งแต่)seperti(เช่น )  dan sebagainya(และอื่นๆ).



 Kata Tugas (คำที่ปฏิบัติงานใช้แสดงอยู่ในประโยคต่างๆ)


               คำหน้าที่ คือกลุ่มที่มีบทบาทต่างๆในประโยคโดยไม่สามารถจัดคำเหล่านี้ให้อยู่ในกลุ่มของคำนาม คำกริยา หรือคำคุณศัพท์ คำหน้าที่ๆสำคัญในภาษามลายูได้แก่
               1. คำเชื่อม (kata hubung) อาทิ dan (และ) atau (หรือ)
               2. คำอุทาน (kata seru) อาทิ amboi (โอ้โห) aduh (โอ้ย)
               3. คำบ่งบอกกาล (kata bantu aspek) อาทิ telah (แล้ว) sedang (กำลัง) akan (จะ)
               4. คำปฏิเสธ (kata nafi) อาทิ bukan (ไม่ใช่) tidak (ไม่)
               5. คำเน้นคุณศัพท์ (kata penguat) อาทิ benar (จริงๆ) sangat (มากๆ) terlalu
                   (เหลือเกิน)
               6. คำบุพบท (kata sendi) อาทิ dari (จาก) kepada (แก่) untuk (เพื่อ) และอื่นๆ



1. คำเชื่อม (kata hubung) คือ คำที่ใช้เชื่อมประโยค หรือเชื่อมคำเข้าด้วยกันเพื่อให้ประโยคมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น


การใช้คำเชื่อม
juga, dan และ tetapi = ด้วย dan = และ tetapi = แต่ คําว่า juga จะใช้กับประโยคที่มีเนื้อหาคล้อยตามกัน โดยจะอยู่ตําแหน่งหน้าคํากริยา หรืออาจอยู่ หลังประโยคเลย ประโยคคล้อยตามที่มีคําว่า dan จึงมักมีคําว่า juga อยู่ด้วย

 ตัวอย่าง
 Saya juga suka ayam goreng.
ฉันก็ชอบไก่ทอดเหมือนกัน

คําว่า tetapi ใช้กับประโยคที่มีเนื้อหาขัดแย้งกัน

ตัวอย่าง
Kakak mau ke panggong wayang, tetapi adik mau tinggal di rumah.
พี่สาวอยากไปดูหนังแต่น้องอยากอยู่บ้าน

คำเชื่อมประโยค มีดังต่อไปนี้
- Tetapi (แต่) ใช้เชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกัน
- Dan (และ) ใช้เชื่อมประโยคที่คล้อยตามกัน
- Lalu, Kemudian (หลังจากนั้น) ใช้เชื่อมประโยคที่สัมพันธ์กัน

1.Dia pandai tetapi malas.
เขาฉลาดแต่ขี้เกียจ

2.Saya makan ayam goreng dan minum teh.
ฉันกินไก่ทอดและดื่มชา

3.Anda jalan terus lalu belok kiri.
คุณเดินตรงไปหลังจากนั้นเลี้ยวซ้าย



2. คำอุทาน (kata seru) คือ คำหรือวลีที่เเสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ดีใจ เศร้าใจ เสียใจ ตกใจ เป็นต้น คำอุธานที่สำคัญๆในภาษามลายู ได้เเก่ aduh(โอ้ย) aduhai(เฮ้อ) amboi(โอ้โห) wah(ว้าว)  ในภาษามลายูใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์เพื่อใช้เป็นคำพูดอัศเจรีย์.


ตัวอย่าง

1.Aduh, sakitnya kakiku!
โอ้ยฉันเจ็บขาของฉัน!

2.Amboi, sombongnya dia!
โอ้่โห้เธอหยิ่ง

3.Wah, mulia sekali hatimu!
ว้าวหัวใจของคุณมีค่ามาก!


3. คำบ่งบอกกาลเวลา (kata bantu aspek) คือมีคําบอกเวลาอยู่จํานวนหนึ่งเพื่อบอกอดีต ปัจจุบันและอนาคต อาทิ telah (แล้ว) sedang (กำลัง) akan (จะ)


 คำบอกเวลาปัจจุบัน
Hari ini, Minggu ini, Bulan ini, Tahun ini.
วันนี้ อาทิตย์นี้ เดือนนี้ ปีนี้

 คำบอกเวลาในอดีต
Kemarin, minggu lalu, tahun lalu
เมื่อวานนี้ อาทิตย์ที่แล้ว ปีที่แล้ว

 คำบอกเวลาในอนาคต
Besok, minggu depan, bulan depan, akan
พรุ่งนี้ อาทิตย์ถัดไป เดือนหน้า จะ


4. คำปฏิเสธ (kata nafi) อาทิ bukan (ไม่ใช่) tidak (ไม่)ใช้เพื่อปฏิเสธคำแถลงมีสองรูปแบบของ nafif ได้แก่ :

i-                   ไม่   -    ปฏิเสธชื่อวลีและวลีที่มีชื่อ
II-                  ไม่   -   ปฏิเสธคำพูดและคำคุณศัพท์
ตัวอย่าง
1.Ini bukan baju saya.
นี่ไม่ใช้เสื้อฉัน

2.Saya tidak mahu pergi ke rumah itu lagi.
ฉันไม่อยากไปบ้านอีกครั้ง

5. คำเน้นคุณศัพท์ (kata penguat) คือคำที่เเสดงหรือชี้เเจงเพิ่มเติมถึงการกระทำหนึ่งว่า เกิดขึ้นอย่างไร มีลักษณะอย่างไร คำกริยาวิเศษณ์นี้สามารถสร้างขึ้นได้โดยใช้คำคุณศัพท์เป็นตัวช่วยอาทิ benar (จริงๆ) sangat (มากๆ) terlalu (เหลือเกิน) จึงหมายถึงเกิดจากการสร้างคำขึ้นใหม่  โดยนำคำมูลซึ่งส่วนมากเป็นคำพยางค์เดียวมาซ้ำกัน  มีความหมายเปลี่ยนแปลงไป  อาจเน้นหนักขึ้น  เบาลงหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น

ตัวอย่าง

1.Suhu di kawasan kutup amat sejuk.
อุณหภูมิในบริเวณนี้ปกคลุมเย็นมากๆ

2.Kereta api itu sangat laju.
รถไฟเร็วมากๆ
6. คำบุพบท (kata sendi) คือคำที่ใช้บ่งบอกตำเเหน่ง สถานที่ ทิศทาง เวลา หรือเเสดงคำสัมพันธ์ ระหว่างนาม หรือสรรพนามหนึ่งกับคำอื่นๆในประโยค  แต่มีคําหลักๆ เพียงไม่กี่คํา ได้แก่
Di ใช้เพื่อบ่งบอกสถานที่ที่เรากําลังอยู่ในปัจจุบัน
Ke ใช้เพื่อบ่งบอกสถานที่ที่เรากําลังจะไป มักใช้คู่กับคําว่า “pergi” (ไป)
Dari ใช้เพื่อบ่งบอกสถานที่ที่เราจากมา

ตัวอย่าง

1.Bapa sedang bekerja di pejabat.
พ่อกําลังทํางานที่สํานักงาน

2.Kami ingin pergi ke Batong.
พวกเราต้องการไปเบตง

3.Orang asing itu datang dari Indonesia.
คนต่างชาตินั้นมาจากอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มคําหนึ่งที่เป็นคําบุพบท และมักใช้ควบคู่กับคําบุพบทข้างต้น คือ

dalam (ข้างใน)
luar (ข้างนอก)
atas (ข้างบน), bawah (ข้างล่าง)
depan (ข้างหน้า)
belakang (ข้างหลัง)
sebelah (ข้างๆ ถัดไป)
dekat (ใกล้)

ตัวอย่าง

1.Dalam
: Ibu   tidur di dalam bilik.
 แม่นอนอยู่ในห้อง

2.Luar
 Adik saya tidak mahu menunggu di luar.
น้องของฉันไม่ต้องการรอข้างนอก
ตัวอย่างประโยค
1.Hari ini saya minum teh.
วันนี้ฉันดื่มชา

2.Kemarin saya makan nasi goreng .
 เมื่อวานนี้ฉันกินข้าวผัด

แหล่งอ้างอิง :
http://junior17skyblue.wixsite.com/bahasa-melayu/blank-asdej
https://ms.wikipedia.org/wiki/Kata_tugas

http://belajarbahasamalaysia2016.blogspot.com/2016/08/1.html

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม